วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ยิ้มให้มากขึ้น
                คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อหัวเราะดัง ๆ ออกมาจากใจ ? คุณรู้สึกดีแน่ ๆ มันเหมือนกับเป็นการชำระล้างและพร้อมจะตั้งต้นใหม่ด้วยความสดชื่น โดยความเป็นจริงทั้งการหัวเราะและการยิ้มนั้นให้ประโยชน์แก่สุขภาพร่างกายอย่างยิ่ง มันเข้าไปกระตุ้นการผลิตสารเอ็นโดฟัน (สารที่ระงับอาการแวดตามธรรมชาติ) ที่เป็นตัวสร้างความสุขให้กับร่างกาย เวลาคุณได้เห็นด้านตลกของชีวิต มันทำให้คุณมีมุมมองที่กว้างขึ้น มีวิจารณญาณที่ดีขึ้น ทั้งยังเป็นการง่ายสำหรับการตั้งคำถามกับตัวเองอีกด้วยว่า ปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่มันสำคัญสำหรับชีวิตมากนักเชียวหรือ…?
                มันช่างเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากมายอะไรเช่นนั้น…! ไม่ว่าจะรู้สึกเหนื่อยหน่ายเพียงไร มันคุ้มค่าแน่ถ้าคุณพยายามหาอะไรบางอย่าง ในปัญหาออกมาและทำให้เป็นเรื่องหัวเราะได้ ถ้าคุณฉาบยิ้มไว้บนใบหน้าผู้คนย่อมยินดีที่จะยิ้มตอบคุณ รอยยิ้มของพวกเขายิ่งจะทำให้คุณรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก….จงแสวงหาสิ่งที่ทำให้คุณหัวเราะได้ไม่ว่าจะ จากหนังสือ จากวิดีโอ จากเพื่อน จากกิจกรรมใด ๆ ก็ตามสำหรับคนช่างหัวเราะ และมันคือโอสถขนานวิเศษ เวลาที่คุณหัวเราะออกมาอย่างจริงใจมันย่อมยากที่จะรู้สึกไม่ดีกับตัวเองและชีวิตอยู่แล้ว


ช็อกโกแลต….เปื้อนยิ้ม
ฉันไปพบทฤษฏีที่ว่า ช็อกโกแลตสามารถชะลอวัยให้ช้าลง ต่อให้มันไม่จริง ก็ควรลองสักหน่อยจะเป็นไรไป!
การทำให้ช็อกโกแลตไม่ทันละลายก็คือ รับประทานให้เร็วขึ้นไง ช็อกโกแลตสอดไส้ลูกเกด เชอรี่ แผ่นส้มฝานและสตรอเบอรี่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่นับรวมเป็นผลไม้ได้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจงรับประทานให้เพียงพอ
การรับประทานอาหารให้ครบนั้น ประกอบด้วยอาหารหลักห้าหมู่ซึ่งได้แก นม แป้ง เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ และช็อกโกแลตใครก็ตามที่พูดว่า เงินไม่สามารถซื้อความสุขได้ คงแค่ล้อเล่นเท่านั้น เพราะความสุขที่ดีที่สุดมีราคาตั้งแต่ 5 เหรียญ 99 เซ็นต์ขึ้นไปและอยู่ที่เคาน์เตอร์ขายช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตราคาถูกกว่าค่านักบำบัดมากนัก ทั้งคุณยังไม่จำเป็นต้องนัดหมายล่วงหน้าด้วยช็อกโกแลตไม่ใช่ตัวสำรองสำหรับรองของช็อกโกแลต….มายอมรับความจริงกันเสียที่เถอะว่าช็อกโกแลตนั้นน่าเชื่อถือว่าผู้ชายเป็นไหน ๆ ไม่มีสิ่งใดดีกว่าการมีเพื่อนที่ดี ยกเว้นเพื่อนดีที่มีช็อกโกแลตด้วยบุคคลเก้าในสิบล้วนแต่ชอบช็อกโกแลตด้วยกันทั้งนี้แล คนที่สิบมักโกหกอยู่เรื่อย…..!
กาแฟ ช็อกโกแลต ผู้ชายล้วนเป็นอะไรบางอย่างที่ดีมากถ้ามีความเข้มข้นจงหวานให้เหมือนช็อกโกแลตเวลาที่คุณรู้สึกจิตใจหดหู่ยาขนานเอก ก็คือการทำอะไรสักอย่างเพื่อใครบางคน
ทำไมจึงต้องเป็นเช่นนั้น…? คำตอบก็คือ เพราะมันยากที่จะคิดถึงตัวเองในทางเลว้ายขณะที่คุณชุลมุนวายอยู่กับความคิดที่จะช่วยคนอื่นเรื่องน่าแปลกอย่างที่สุดที่เกิดตามมาจากการช่วยเหลือคนอื่นก็คือ
มันทำให้คุณรู้สึกดีมาก ๆ กับตัวเอง ถ้าเช่นนั้น ทำไมวันนี้ คุณไม่ลองทำอะไรให้ชีวิตของคนอื่นรวมทั้งตัวคุณเอง..หวานขึ้นว่าเดิมอีกสักนิดล่ะ…? ลองกล่าวคำทักทายกับใครบางคนได้นั่งลงบนเก้าอี้แทน รับอาสาทำอะไรที่ดี ๆ สักอย่างเก็บขยะ ล้างจาน แสดงออกถึงความมีน้ำใจหรือเพียงแค่ยิ้มให้ก็ยังดีมีวิธีการมากมายที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางบวกขึ้นในชีวิตของผู้อื่นและในกระบวนการสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับตนเอง



จงวางศูนย์กลางแห่งชีวิต ไว้บนความมีคุณค่า
ขณะนี้เมื่อคุณค้นพบเกี่ยวกับตัวเอง และวิธีคิดที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกดีมากขึ้น แล้วเราควรเข้าไปให้ถึงแก่น และลองดูสิว่ามันมีอะไรที่อยู่ลึกลงไปในจิตใจคุณอย่างแท้จริง แกนแท้ของคุณเต็มไปด้วยความเข้มข้นและให้รางวัลแก่คุณอยู่เสมอ หรือว่ามันมีแต่ความว่างเปล่า ไร้อารมณ์ มีแต่ความผิดหวัง ความรู้สึกเต็มเปี่ยมที่แผ่นจากภายในออกมาภายนอกนั้นหมายถึงการที่ไม่ได้วางศูนย์กลางแห่งชีวิตไว้กับคนหรือวัตถุเช่นเรื่องของหน้าที่การงาน การเงินหรือบุคลิกภาพ แต่หยั่งรากลึกลงไว้ในความมีคุณค่าและหลักการการที่ไม่ได้วางศูนย์กลางแห่งชีวิตไว้กับจริยธรรม คือหายนะอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าความคิดทุกประการของคุณมุ่งอยู่แต่เรื่อของงาน มัน หมายถึงว่าความผิดหวังใด ๆ ในงานก็สามารถส่งคุณลงไปยัง หุบเหวแห่งการมีชีวิต ถ้าความคิด ทั้งมวลของคุณมุ่งอยู่แต่กับเรื่อง ของคู่ครองหรือหุ้นส่วนในชีวิต นั่นหมายถึงว่าชีวิตของคุณจะ ไม่มีความสุขเช่นที่มันควรจะเป็น ถ้าความคิดเห็นของเพื่อนฝูงเป็นสิ่ง ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับคุณแล้ว มันย่อมทำให้คุณเกิดความรู้สึก อ่อนแอโดยเฉพาะเมื่อเพื่อน ๆ ทั้งหลายเหล่านั้นหันหลังให้หรือ ทำให้คุณต้องผิดหวัง เสียใจ แต่ถ้า คุณวางรากฐานแห่งชีวิตไว้บน คุณค่าของตนเองมันจะก่อให้เกิด พลังภายในและสามารถสนอง ตอบต่อความต้องการของคุณได้
ความมีคุณค่าคืออะไร? ความมีคุณค่าก็ได้แก่ความซื่อสัตย์จริงใจความเคารพนับถือ ความรัก ความจงรักภัคดี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความสามารถเชื่อถือได้และความรับผิดชอบความมีคุณค่ายังมีอยู่อีกมากมายซึ่งหัวใจคุณย่อมรู้จักมันอย่างดี ถ้าถามว่า เพราะเหตุใดคุณค่าในทางบวกทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งะก็ ขอให้สร้างจินตนาการ มองเห็นภาพชีวิตของตนเองในทางตรงกันข้าม มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่คนเราจะมีความสุขอยู่บนความเกลียดชัง การทรยศหักหลัง หรือความอาฆาต มาดร้ายการที่คนเราจะมีชีวิตอยู่บนรายฐานแห่งความมีคุณค่าและหลักการในทางสร้างสรรค์นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบุคคลที่แวดล้อมคุณอยู่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ก็ดังเช่นคำกล่าวที่ว่า
“พลังของฉันนั้นเต็มร้อย เพราะหัวใจของฉันบริสุทธิ์” ความซื้อสัตย์จริงใจนั้น หมายถึงการยึดมั่นอยู่กับเงื่อนไขรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้ต่อตัวเองและต่อผู้อื่น ทำในสิ่งที่เห็นว่าถูกต้องและมีความจริงใจต่อตนเองคือหลักการที่ดีที่สุด แม้ว่ามันจะไม่เป็นไปตามสมัยนิยมก็ตาม การที่คุณพยายามจะเป็นอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่ใช่นั้น จะทำให้คุณรู้สึกขาดความเชื่อมั่นในตนเอง จูดี้ การ์แลนด์ กล่าวเป็นคำคมไว้ว่า….
…..จงเป็นที่หนึ่งในแบบของตัวเอง ดีกว่าเป็นที่สองในแบบของคนอื่น….






จงเป็นเพื่อนที่ดีของตัวเอง
หวังว่าเมื่อมาถึงตอนนี้คุณคงพอจะเห็นภาพบ้างแล้ว กฎข้อแรกนี้คือการค้นพบแก่นหรือศูนย์กลางและมีความจริงใจต่อตนเองดูอาจเหมือนง่าย แต่อย่างเพิ่งกังวลไป หากว่าคุณไม่ได้รู้สึกดีออกมาจากข้างในอยู่ตลอดเวลา ก็ควรพยายามย่ำแย่ยามทำต่อไปเรื่อย ๆ และเมื่อใดที่รู้สึกย่ำแย่แล้วละก็ มอลองทำแบฝึกหัดข้างล่างนี้ดู
ลองจินตนาการให้ตัวเองออกมายืนข้าง ๆ ร่างกายของคุณทำตัวประหนึ่งเพื่อนที่รักของตนเอง คุณจะพูจาปลุกปลอบ ยืนยันสร้างความมั่นใจกับตนเองออย่างไร..? คุณจะใช้วิธีการใดที่จะปลุกเร้าให้เกิดความรู้สึกดีต่อตนเอง…? จะกอดตัวเองแรง ๆ สักครั้งไหม…? จะบอกกับตัวเองไหมว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว และรู้สึกขอบกับความทุกข์ยากที่ชีวิตนำมาให้ แต่คุณคิดว่าตัวเองทำได้อย่างเยี่ยมยอด และสามารถรับมือในทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี….?
แบบฝึกหัดดับกล่าวค่อนข้างง่ายมีประโยชน์อย่างแท้จริงเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกหมดกำลังใจ จงทำรัวให้เป็นเพื่อนที่ดีของตนเองแล้วลองดูสิว่า มันช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นมากเพียงใด
เวลาที่คุณคิดถึงตัวเอง คุณมองเห็นว่าตัวเองว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน…? จะมองให้เห็นภาพของตัวเองอย่างกระจ่างชัดนั้นมันเป็นสิ่งที่ทำยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่จิตใจหม่นหมอง มีคนเป็นจำนวนมากที่ชอบวิจารณ์ตัวเองและพบว่ามีเรื่องผิดพลาดอยู่มากมาย ซึ่งความเห็นเหล่านี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงเลย เราไม่ใช่คนเกียจคร้าน โง่เขลาเบาปัญญา เป็นคนไร้ค่า และอื่น ๆ อีกมากมายเราไปรับเอาความเชื่อเช่นนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ ซึ่งเลาเป็นช่วงที่เราพร้อมจะเชื่อในทุกสิ่งที่ถูกสั่งสอนมา และตราบใดที่คุณยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเชื่อในด้านลบเกี่ยวกับตัวเองได้ คุณก็ยังจะต้องสงสัยในตัวเองอยู่ร่ำไป
ดังนั้น เราต้องทางต้องให้มีความจักที่จะฝึกใจของตัวเองให้มีความเอทางด้านบวก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ทุกรั้งที่คุณรูสึกหรือคิดถึงอะไรบางอย่างที่เป็นไปในด้วยลบเกี่ยวกับตัวเอง จงทำตัวให้เป็นเพื่อนที่ดีแห่งตนและคัดค้านความคิดในด้านลบนั้น โดยเอาความคิดในแง่ดี หรือความคิดที่สามารถสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นได้เข้ามาแทนที่
ยกตัวอย่างเช่น
ทุกครั้งที่คุณทีคุณบอกตัวเองว่า….เรานี่โง่จริง….
จงหยุดความคิดเช่นนั้นและบอกตัวเองเสียใหม่ว่า คุณเป็นคนฉลาด จงปฏิบัติเช่นนี้จนกลายเป็นนิสัย แน่นอนที่เทคนิคนี้ย่อมต้องใช้เวลาในหารฝึกฝนแต่ขอรับรองว่ามันใช้ได้ผล
ดังนั้น….นับแต่นี้เป็นต้นไป
จงอย่างเชื่อในทุกสิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับตัวเอง แต่จงท้าทายมัน คุณเสียหายตรงไหนหรือ?

มันก็แค่เสียช่วงเวลาของชีวิตที่มัวแต่สงสัยตัวเองไปเท่านั้น



ชลิต วินวัฒนา. นาริต คิดแบบช็อกโกแลต.กรุงเทพฯ:เพ็ญวัฒนา,2551

ที่มา  ; http://www.youtube.com/watch?v=vtEXjWB2n20